นำเสนอภาพที่เกี่ยวกับพระราชพิธีบรมราชาภิเษกของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวและพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว พระราชพิธีโสกันต์ พิธีเปิดพระบรมรูปทรงม้า พระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ งานพระเมรุพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวและพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมขุนสุพรรณภาควดี
นอกจากนี้ยังมีภาพการเสด็จประพาสต้นของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว การเสด็จประพาสมณฑลปักษ์ใต้ของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว และการเสด็จตรวจราชการมณฑลอีสานของสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ เป็นต้น
สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ เสด็จตรวจราชการมณฑลอุดร พุทธศักราช ๒๔๔๙
Prince Damrongrajanubhab, during his official inspection at Monthon Udon in 1906.
ที่ว่าการมณฑลอุดร เมื่อคราวสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ เสด็จตรวจราชการ พุทธศักราช ๒๔๔๙
The office of Monthon Udon, taken at the time of Prince Damrongrajanubhab’s official inspection tour.
กองคาราวานเกวียนจอดพัก ณ ที่พักแรม เมื่อคราวสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ เสด็จตรวจราชการมณฑลอุดร พุทธศักราช 2449
Overnight cart caravan at a rest area during Prince Damrongrajanubhab’s official inspection visit to Monthon Udon in 1906.
พระสวดชัยมงคล กำนันผู้ใหญ่บ้านและราษฎรเมืองไชยบุรีเฝ้ารับเสด็จสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ เมื่อคราวเสด็จตรวจราชการมณฑลอุดร พุทธศักราช ๒๔๔๙
Chanting monks while heads of sub-districts/villages and the population of Chaiyaburi are waiting to welcome Prince Damrongrajanubhab, on his inspection visit to Monthon Udon in 1906.
พระธาตุพนม เมืองนครพนม เมื่อคราวสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ เสด็จตรวจราชการมณฑลอุดร พุทธศักราช ๒๔๔๙
Phra Thatphanom Stupa in Nakhonphanom Province during Prince Damrongrajanubhab’s official inspection visit to Monthon Udon in 1906.
สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพและผู้ตามเสด็จ คราวเสด็จตรวจราชการมณฑลอุดร พุทธศักราช ๒๔๔๙ ด้านหลังเป็นพระธาตุพนม เมืองนครพนม
Prince Damrongrajanubhab and party during his inspection visit to Monthon Udon in 1906 with Phra Thatphanom Stupa, Nakhonphanom Province on the background.
ราษฎรและหอผึ้งในการแห่ปราสาทผึ้งที่เมืองนครพนม รับเสด็จสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ เมื่อคราวเสด็จตรวจราชการมณฑลอุดร พุทธศักราช ๒๔๔๙
People with their wax towers are waiting to receive Prince Damrongjajanubhab in the Wax Castle Festival at Nakhonphanom Province during his official inspection visit to Monthon Udon in 1906.
การละเล่นของหญิงชาวแสกเมื่อคราวสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพเสด็จตรวจราชการที่เมืองนครพนม พุทธศักราช ๒๔๔๙
Performance by Saek women (a tribe) for Prince Damrongrajanubhab during his official inspection visit to Nakhonphanom in 1906.
การเล่นโส้ทั่งบั้งหรือสะลาของชาวกะโซ่จากเมืองกุสุมาลย์ จะให้ผู้ชายถือบั้ง (กระบอกไม้ไผ่ ๓ ปล้อง) กระทุ้งดินเป็นจังหวะประกอบการร้องรำทำเพลงรอบไหเหล้าอุ เมื่อคราวสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ เสด็จตรวจราชการมณฑลอุดร พุทธศักราช ๒๔๔๙
As part of Prince Damrongrajanubhab’s official inspection visit to Monthon Udon in 1906, Kaso people (atribe) from Kusuman City are performing Sala; 3 men, each holding in hands a bamboo tube, rhythmic hitting the ground, singing, and dancing around a liquor pot.
สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ เสด็จถึงท่าน้ำหน้าเมืองมุกดาหาร เมื่อคราวเสด็จตรวจราชการมณฑลอุดร พุทธศักราช ๒๔๔๙
Upon arrival of Prince Damrongrajanubhab at a pier in front of Mukdahan City, on his inspection visit to Monthon Udon in 1906.
ราษฎรรอเฝ้ารับเสด็จเมื่อคราวสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพเสด็จตรวจราชการมณฑลอีสาน พุทธศักราช ๒๔๔๙
Local people are waiting to welcome Prince Damrongrajanubhab on his official insepction tour In Monthon Isan in 1906.
ราษฎรพร้อมเครื่องสักการะมารอเฝ้ารับเสด็จเมื่อคราวสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ เสด็จตรวจราชการมณฑลอีสาน พุทธศักราช ๒๔๔๙
Waiting people with their homage offerings to welcome Prince Damrongrajanubhab on his official insepction tour In Monthon Isan in 1906.
ซุ้มประตูประดับตกแต่งด้วยธงช้างเมื่อคราวสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ เสด็จตรวจราชการมณฑลอีสาน พุทธศักราช ๒๔๔๙
Temporary man-made gate decorated with elephant flags to welcome Prince Damrongrajanubhab on his official insepction tour In Monthon Isan in 1906.
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ประทับเป็นประธานในการประชุมเสนาบดีสภา ณ พระที่นั่งวิมานเมฆ พระราชวังดุสิต (จากซ้ายไปขวา)
๑. เจ้าพระยาวิชิตวงศ์วุฒิไกร (หม่อมราชวงศ์คลี่ สุทัศน์)
๒. สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ากรมพระยานริศรานุวัดติวงศ์
๓. พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระนเรศรวรฤทธิ์
๔. พระยาศรีสุนทรโวหาร (กมล สาลักษณ)
๕. พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
๖. สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาเทวะวงศ์วโรปการ
๗. สมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ
๘. พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหมื่นมหิศรราชหฤทัย
๙. เจ้าพระยาเทเวศร์วงศ์วิวัฒน์ (หม่อมราชวงศ์หลาน กุญชร)
King Chulalongkorn, chairing a meeting of the Council of Ministers at Phra Thinang Vimanmek, Dusit Palace
1. Chao Phraya Vichitvong Vudhigrai (M.R. Khli Sudhat)
2. Prince Narisara Nuvadtivong
3. Prince Naresvarariddhi
4. Phraya Sri Sunthonwoharn (Kamol Salak)
5. King Chulalongkorn
6. Prince Devawongse Varoprakar
7. Prince Damrongrajanubhab
8. Prince Mahisara Rajaharudaya
9. Chao Phraya Devesvongvivat (M.R.Lan Kunjara)
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงฉายกับพระบรมวงศานุวงศ์และข้าราชการที่เกิดร่วมปีสหชาติ (ปีฉลู) ณ พลับพลายอดมุขรูปพระเกี้ยว ในสวนแง่เต๋ง พระราชวังดุสิต ในการบำเพ็ญพระราชกุศลเฉลิมพระชนมพรรษา ๕๐ พรรษา วันที่ ๓ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๔๔๖
King Chulalongkorn and the royal members who born on the same Year of Cow having a photo taken at the crown rooftop pavilion in Ngae-teng Garden, Dusit Palace on the occasion of merit making for his 50th birthday anniversary on November 3, 1903.
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์และข้าราชการในการบำเพ็ญพระราชกุศลเฉลิมพระชนมพรรษา ๕๐ พรรษา วันที่ ๔ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๔๔๖ ณ พลับพลายอดมุขรูปพระเกี้ยว ในสวนแง่เต๋ง พระราชวังดุสิต
King Chulalongkorn, together with members of the royal family and officials in a merit making on his 50th birthday anniversary on November 4, 1903 at the crown rooftop pavilion in Ngae-teng Garden, Dusit Palace.
สมเด็จพระศรีพัชรินทรา บรมราชินีนาถ และสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าประชาธิปกศักดิเดชน์ (พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว) ประทับบนรถม้าพระที่นั่ง ในงานพระราชทานพระกฐินหลวง ณ วัดมกุฏกษัตริยาราม
Queen Sri Bajarindra and Prince Prajadhipok (King Prajadhipok) on a carriage in the royal Kathin – robe presentation at Wat Makutkasatriyaram.
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ขณะประทับบนหลังม้าพระที่นั่ง
King Chulalongkorn riding a horse.
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าอยู่หัวทรงตัดแถบแพรเปิดถนน ซึ่งได้รับพระราชทานนามว่า “ถนนถวาย” ตำบลบ้านตลาดท่าฉลอม เมืองสมุทรสาคร เมื่อวันที่ ๑๘ มีนาคม พุทธศักราช ๒๔๔๘
King Chulalongkorn is cutting ribbons obstructing a road which he named it “Thawai Road”, at Ban Talad Sub-district, Tha Chalom, Samut Songkhram on March 18, 1905.
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ถวายน้ำสรงในพระราชพิธีสมณุตมาภิเษก เลื่อนพระอิสริยยศ พระเจ้าน้องยาเธอ กรมหลวงวชิรญาณวโรรส สุนทรพรตวิสุทธิพรหมจรรย์ วิมลศีลขันธ์ธรรมวรยุต ศรีวิสุทธิคณานุนายก สาสนดิลกธรรมานุวาทย์ บริษัทนารถสมณุตมบรมพิตร สมเด็จพระมหาสมณเจ้า วันที่ ๒ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๔๔๙
King Chulalongkorn taking a bath as part of the royal ceremony appointing Prince Vajirayanavararosa to be the Supreme Patriach on November 2, 1906.
สเตอร์ รุสโซ เรสิดังต์ ณ เมืองกำปอด ของฝรั่งเศส ส่งมอบหนังสือสัญญาคืนเมืองตราดให้แก่สยาม มีพระยาศรีสหเทพ (เส็ง วิริยศิริ, คนนั่งขวา) เป็นผู้แทนรัฐบาลสยามรับมอบ หน้าศาลากลางเมืองตราด เมื่อวันที่ ๖ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๔๕๐
Mr.Rousseau, Resident at Kampot of France, presenting a written evidence in returning Trat Province to Thailand via Phraya Sisahathep (Seng Viriyasiri, sitting right) as Siam representative, taken in front of Trat Provincial Office on July 6, 1907.
ราษฎรเมืองนครชัยศรี เฝ้ารับเสด็จพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ครั้งเสด็จพระราชดำเนินไปทรงสักการะพระปฐมเจดีย์
Nakhonchaisi people waiting to welcome King Vajiravudh during his visit to Phra Pathom Chedi.
พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จออก ณ สีหบัญชรในการพระราชพิธีพระราชทานรัฐธรรมนูญ พุทธศักราช ๒๔๗๕
King Prajadhipok appears on the balcony in the Conferment of Constitution Ceremony in 1932.
ราษฎรนำข้าวมาแสดงในงานแสดงกสิกรรมและพาณิชยการ ที่สระปทุมวัน
People and their rice product in the exhibition of agriculture and trade at Sra Prathumwan.
พิธีเปิดพระบรมรูปทรงม้า ณ พระลานพระราชวังดุสิต เป็นการเนื่องในพระราชพิธีรัชมังคลาภิเษกพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติครบ ๔๐ ปี เมื่อวันที่ ๑๑ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๔๕๑
The opening ceremony of the Equestrian Statue of King Chulalongkorn’s during the Rajamangalabhisek Royal Ceremony on the 40th anniversary of his ascension to the throne, November 11, 1908.
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงเปิดพระบรมรูปทรงม้า ณ พระลานพระราชวังดุสิต ในการพระราชพิธีรัชมังคลาภิเษก เนื่องในโอกาสเสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติครบ ๔๐ ปี เมื่อวันที่ ๑๑ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๔๕๑
King Chulalongkorn presides over the opening ceremony of the Equestrian Statue in the the Rajamangalabhisek Royal Ceremony on the 40th anniversary of his ascension to the throne, November 11, 1908.
พระบรมรูปทรงม้า ณ พระลานพระราชวังดุสิต หลังจากพิธีเปิดเมื่อวันที่ ๑๑ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๔๕๑
The Equestrian Statue of King Chulalongkorn on the grounds of Dusit Palace after the opening ceremony on November 11, 1908.
พระราชพิธีโสกันต์พระเจ้าลูกเธอ พระองค์เจ้าศรีวิไลยลักษณ์ สุนทรศักดิ์กัลยาวดี (กรมขุนสุพรรณภาควดี)
พระราชธิดาในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวกับ เจ้าคุณพระประยุรวงศ์ (เจ้าคุณจอมมารดาแพ) ประสูติเมื่อวันที่ ๒๔ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๔๑๑ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้จัดพระราชพิธีโสกันต์ในพุทธศักราช ๒๔๒๑ ในภาพพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวประทับยืนที่พระที่นั่งอาภรณ์ภิโมกข์ปราสาทพร้อมด้วยพระเจ้าลูกเธอทรงเครื่องในพระราชพิธีโสกันต์ตามโบราณราชประเพณี
Princess Srivilailaksana, Sunthornsak Kalayavadi, Princess of Suphanburi’s topknot cutting ceremony. A daughter of King Chulalongkorn and Chao Khun Phra Prayurawong (Chao Khun Chom Manda Phae), she was born on July 24, 1868 and the ceremony took place in 1878 by the king’s order. King Chulalongkorn is standing at Phra Thinang Aphorn Phimok Prasat with the Princess next to him, in the traditional dressing for the topknot cutting ceremony.
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงสรงน้ำสมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าจุฑาธุชธราดิลก (กรมขุนเพ็ชรบูรณ์อินทราชัย) ในพระราชพิธีโสกันต์ เมื่อวันที่ ๑๘ มกราคม พุทธศักราช ๒๔๔๗
King Chulalongkorn giving a bath to Prince Prince Chudadhuj Dharadilok, Prince of Phetchabun in the Topknot Cutting Ceremony on January 18, 1904.
สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าจุฑาธุชธราดิลก (กรมขุนเพ็ชรบูรณ์อินทราชัย) ทรงเครื่องต้น ในพระราชพิธีโสกันต์ เมื่อวันที่ ๑๘ มกราคม พุทธศักราช ๒๔๔๗
Prince Chudadhuj Dharadilok, Prince of Phetchabun in full traditional costume for the Topknot Cutting Ceremony on January 18, 1904.
พระราชพิธีโสกันต์ สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าจุฑาธุชธราดิลก (กรมขุนเพ็ชรบูรณ์อินทราชัย) ประทับ ณ ที่สรงน้ำ เมื่อวันที่ ๑๘ มกราคม พุทธศักราช ๒๔๔๗
In the Topknot Cutting Ceremony on January 18, 1904, Prince Chudadhuj Dharadilok, Prince of Phetchabun is sitting on the bathing platform.
พระเจ้าลูกยาเธอ พระองค์เจ้าอุรุพงศ์รัชสมโภช ทรงเครื่องโสกันต์ พุทธศักราช ๒๔๔๘
Prince Urubongs Rajsombhoj in the topknot cutting attire, in 1905.
พระราชพิธีโสกันต์ สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจันทราสรัทวาร (กรมขุนพิจิตรเจษฎ์จันทร์) พุทธศักราช ๒๔๒๖
The Topknot Cutting Ceremony for Princess Chandra Saradavara Princess of Phichit in 1883.
พระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญที่ทุ่งพญาไท ซึ่งอยู่ทางทิศใต้ของพระราชวังพญาไท (ปัจจุบันคือโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า)
The Royal Ploughing Ceremony at Thung Phaya Thai field, south of Phya Thai Palace (It is now Phra Mongkutklao Hospital).
เจ้าพนักงานจูงพระโคเทียมแอก พระยาแรกนาจับคันไถแล้วไถไปโดยทักษิณาวรรต ๓ รอบ พร้อมหว่านเมล็ดข้าว ในพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญที่ทุ่งพญาไท
Officials are leading the yoke. Ploughing Lord grasps the plough handle and furrows clockwise for 3 rounds. At the same time he sow the rice seeds.
พระยาแรกนาขณะประกอบพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญที่ทุ่งพญาไท
Ploughing Lord is performing the Royal Ploughing Ceremony.
ขบวนรถยนต์จอดเรียงรายอยู่หน้าพระตำหนักวังพญาไทในพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ
Car procession parking in line, in front of Phya Thai Palace Palace during the Royal Ploughing Ceremony.
พระเมรุมาศพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ณ ท้องสนามหลวง ซึ่งมีพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ เมื่อวันที่ ๑๖ มีนาคม พุทธศักราช ๒๔๕๓
Phra Meru Mas (The royal crematorium) of King Chulalongkorn at Sanam Luang. The royal cremation took place on March 16, 1910.
การอัญเชิญพระโกศพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จากพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ไปประดิษฐานบนพระยานมาศสามลำคาน เพื่ออัญเชิญไปยังพระเมรุมาศ ท้องสนามหลวง เมื่อวันที่ ๑๖ มีนาคม พุทธศักราช ๒๔๕๓
Moving the Royal Funerary Urn of King Chulalongkorn from Dusit Maha Prasat Hall to put on the Royal Chariot with Three Poles Palaquin to carry to the crematorium at Sanam Luang on Thursday, March 16, 1910.
สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส ทรงอ่านพระอภิธรรมนำขบวนพระบรมราชอิสริยยศพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อวันที่ ๑๖ มีนาคม พุทธศักราช ๒๔๕๓
The Supreme Patriarch, Somdet Vajirananavarorasa recites dhamma scriptures leading King Chulalongkorn’s funeral procession on Thursday, March 16, 1910.
ริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศเชิญพระโกศพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เคลื่อนถึงหน้ากระทรวงกลาโหม บริเวณถนนสนามไชย เมื่อวันที่ ๑๖ มีนาคม พุทธศักราช ๒๔๕๓
King Chulalongkorn’s funeral procession arrives in front of Ministry of Defense, Sanamchai Road on Thursday, March 16, 1910.
ริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศเชิญพระบรมอัฐิและพระบรมราชสรีรางคารพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว กลับเข้าสู่พระบรมมหาราชวัง
The procession transfers King Chulalongkorn’s relics and ashes to be enshrined in the Grand Palace.
การถวายพระเพลิงพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ณ พระเมรุมาศ ท้องสนามหลวง เมื่อวันที่ ๒๔ มีนาคม พุทธศักราช ๒๔๖๙
The Royal cremation Ceremony of King Vajiravudh at Sanam Luang on Thursday, March 24, 1926.
เจ้าพนักงานภูษามาลาเชิญพระโกศพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวขึ้นประดิษฐานบนพระมหาพิชัยราชรถ เมื่อวันที่ ๒๔ มีนาคม พุทธศักราช ๒๔๖๙
The Royal Funerary Urn of King Vajiravudh is being transferred to place upon the Phra Maha Phichai Ratcharot (Great Victory ChariotX by court officials on Thursday, March 24, 1926.
สมเด็จพระศรีพัชรินทรา บรมราชินีนาถ และสมเด็จพระศรีสวรินทิรา บรมราชเทวี พร้อมด้วยพระราชชายา พระเจ้าลูกเธอ เจ้าจอมมารดา พระบรมวงศานุวงศ์ และข้าราชบริพารฝ่ายใน ทรงฉายภาพเป็นที่ระลึกในงานพระเมรุพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีวิลัยลักษณ์ กรมขุนสุพรรณภาควดี ณ พระราชวังบางปะอิน พุทธศักราช ๒๔๔๗
Queen Sri Bajarindra and Queen Sri Savarindra together with other roryal consorts, members of the royal family and administrators from the Inner Court, having a photo taken on the occasion of the Royal Cremation of Princess Srivilailaksana, Princess of Suphanburi at Bang Pa In Palace in 1904.
การประดับตกแต่งสระน้ำด้วยกระทงรูปต่างๆ ด้วยฝีมืออันวิจิตรงดงาม ในขบวนเชิญพระศพพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีวิลัยลักษณ์ กรมขุนสุพรรณภาควดี ณ พระราชวังบางปะอิน เมื่อวันที่ ๑๕ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๔๔๗
Beautiful decoration of the pond in different designs in the funeral procession of Princess Srivilailaksana, Princess of Suphanburi at Bang Pa In Palace, on Monday, February 15, 1904.
การประดับตกแต่งสระน้ำด้วยกระทงรูปต่างๆ ในงานพระศพพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีวิลัยลักษณ์ กรมขุนสุพรรณภาควดี พุทธศักราช ๒๔๔๗
Beautiful decoration of the pond in different designs in the funeral procession of Princess Srivilailaksana, Princess of Suphanburi in 1904.
พระบรมวงศ์และข้าราชการในขบวนรถไฟจากสถานีจิตรลดาไปถึงสถานีบางปะอิน เพื่อไปร่วมงานพระศพพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีวิลัยลักษณ์ กรมขุนสุพรรณภาควดี พุทธศักราช ๒๔๔๗
The royal members and officials in the train procession from Chitralada Station to Bang Pa In Station to participate in the royal cremation of Princess Srivilailaksana, Princess of Suphanburi in 1904.
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงฉลองพระองค์เครื่องต้นบรมขัตติยราชภูษิตาภรณ์ ทรงชฎาพระกลีบ และสังวาลนพรัตน์ ประทับบนพระที่นั่งพุดตานกง ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษกครั้งแรก พุทธศักราช ๒๔๑๑
King Chulalongkorn in Royal costume wearing Chada Phra Kleeb headdress and Nopparat Breast Chain, seating on Pudtankong Throne in his first coronation ceremony in 1868.
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงฉลองพระองค์เครื่องต้นบรมขัตติยราชภูษิตาภรณ์ ทรงชฎาพระกลีบ ประดับดวงดารานพรัตน์ราชวราภรณ์ ดวงดาราและสายสะพายเครื่องราชอิสริยาภรณ์ เซนต์ สตีเฟ่น แห่งจักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการี ประทับบนพระที่นั่งพุดตานกง ในงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษกครั้งแรก พุทธศักราช ๒๔๑๑
King Chulalongkorn in Royal costume wearing Chada Phra Kleeb headdress, decorated with Nopparat star along with the Grand Cross sash and star Order of St. Stephen of Austro-Hungarian Empire, seating on Pudtankong Throne in his first coronation ceremony in 1868.
พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงฉลองพระองค์เครื่องต้นบรมขัตติยราชภูษิตาภรณ์ ประทับพระที่นั่งภัทรบิฐมนังคศิลารัตนสิงหาสน์ ภายใต้พระมหานพปฎลเศวตฉัตร ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก วันที่ ๒ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๔๕๔
King Vajiravudh in golden gown, seating on Phatharabit Manangkhasila Rattana Singhasana Throne under the 9-tiered white umbrella at Dusit Maha Prasat Hall, in the coronation ceremony on December 2, 1911.
พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงฉลองพระองค์เครื่องต้นบรมขัตติยราชภูษิตาภรณ์ ทรงพระชฎา ๕ ยอด ประทับบนพระที่นั่งพุดตานกาญจนสิงหาสน์ ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก วันที่ ๒ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๔๕๔
King Vajiravudh in golden gown, wearing 5-pointed headdress, seating on Pudtan Kanchana Singhasana Throne in the coronation ceremony on December 2, 1911.
พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินโดยขบวนพยุหยาตราทางสถลมารคเลียบพระนคร ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เมื่อวันที่ ๓ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๔๕๔
On December 3, 1911, King Vajiravudh is in the traditional procession along the capital on the occasion of his coronation.
พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินโดยขบวนพยุหยาตราทางสถลมารค ในงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
King Vajiravudh, in the traditional procession along the capital on the occasion of his coronation.
เรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ เรือพระที่นั่งลำทรงของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ในขบวนพยุหยาตราทางชลมารค ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก วันที่ ๔ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๔๕๔
On December 4, 2911, Suphanahong, the Royal Barge for the king in the Royal Barge Procession on the occasion of King Vajiravudh coronation.
เรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ และเรือพระที่นั่งอเนกชาติภุชงค์ (เรือพระที่นั่งรอง) ในขบวนพยุหยาตราทางชลมารค ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษกของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทอดอยู่ที่ท่าราชวรดิฐ
The Suphannahong Royal Barge and the Anekchart phuchong Royal Barge (the Secondary Royal Barge) in the Royal Barge Procession on the occasion of King Vajiravudh coronation, parking at Ratcha Woradit Pier.
พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงฉลองพระองค์บรมขัตติยราชภูษิตาภรณ์ ทรงพระมหาพิชัยมงกุฎ เสด็จสถิตเหนือพระที่นั่งพุดตานกาญจนสิงหาสน์ ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก วันที่ ๒๕ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๔๖๘
King Prajadhipok, wearing Phra Maha Pichai Mongkut (the Great Crown of Victory) in golden gown, seating on the gold throne, Pudtan Kanchana Singhasana, in the coronation ceremony on February 25, 1925.
โรงพระราชพิธีกระทำศาสตร์ปุณยาชุบโหมเพลิงในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ปลูกอยู่ทางตะวันออกนอกกำแพงแก้วพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ในภาพคือพระราชครูวามเทพมุนี (หว่าง รังสิพราหมณกุล) ขณะสาธยายพระเวท
A shelter for burning a ceremonial bunch of tree leaves used in the coronation ceremony, built in outer part of Kampaeng Kaew wall of Phra Thinang Amarindra Vinitchai Hall. Phra Rajaguru Vamadeb Muni (Wang Ransibrahmanakul) is chanting vedic.
พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงฉลองพระองค์เครื่องต้นบรมขัตติยราชภูษิตาภรณ์ ทรงพระชฎากลีบ ประทับบนพระราชยานพุดตานทอง ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
King Prajadhipok, wearing golden gown, petal headdress, seating on the Pudtanthong Palanquin in the coronation ceremony.
พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว พร้อมด้วยข้าราชบริพารเชิญเครื่องราชูปโภคในวันพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
King Prajadhipok together with his entourage presenting the royal articles of use on the day of coronation ceremony.
พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ประทับเหนือพระที่นั่งพุดตานกาญจนสิงหาสน์ แวดล้อมด้วยข้าราชบริพารฝ่ายหน้าเชิญเครื่องเบญจราชกกุธภัณฑ์ เครื่องราชูปโภค และพระแสงราชศัสตราวุธ ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก วันที่ ๒๕ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๔๖๘
King Prajadhipok, seating on the gold throne, Pudtan Kanchana Singhasana together with ladies from the Inner Court presenting the coronation regalia, royal articles of use, and the royal sword in the coronation ceremony on February 25, 1925
พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อครั้งยังดำรงพระราชอิสริยยศสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินโดยขบวนช้างถึงที่ประทับร้อนตำบลบ้านเสียบญวน เมืองชุมพร ในคราวเสด็จประพาสหัวเมืองปักษ์ใต้ พุทธศักราช ๒๔๕๒
King Vajiravudh in the Crown Prince status visiting Ban Siap Yuan Sub-district, Chumphon Province by elephant caravan during his visit to the southern provinces in 1909.
ข้าราชสำนักและข้าราชการ ถ่ายภาพร่วมกันที่เมืองระนอง ในการตามเสด็จพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อครั้งยังดำรงพระราชอิสริยยศ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จประพาสหัวเมืองปักษ์ใต้ พุทธศักราช ๒๔๕๒
Court officials and officials in the delegation visiting to the southern provinces in group photo at Ranong Province in 1909.
บริเวณสุสานพระยาดำรงสุจริตมหิศรภักดี (คอซูเจียง ณ ระนอง) ณ เมืองระนอง พุทธศักราช ๒๔๕๒
Taken at the cemetery of Phraya Damrong Sucharit Mahisonphakdi (Khorsujiang Na Ranong) at Ranong Province in 1909.
พ่อค้าและราษฎรในเมืองภูเก็ต ตกแต่งร้านและบ้านเรือนด้วยผ้าและธงต่างๆ ในการรับเสด็จพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อครั้งดำรงพระราชอิสริยยศสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามบรมราชกุมาร เสด็จประพาสหัวเมืองปักษ์ใต้ พุทธศักราช ๒๔๕๒
Decorated houses and shops with colored bands and flags by vendors and the people to welcome King Vajiravudh as the Crown Prince at that time, in 1909.
เรือใบหน้าท่าโรงภาษี เมืองภูเก็ต พุทธศักราช ๒๔๕๒
Sailboat in front of Rong Phasi or Tax Office, Phuket Province, in 1909.
ข้าราชการแต่งกายด้วยชุดแฟนซี ที่เมืองภูเก็ต ในการตามเสด็จพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อครั้งดำรงพระราชอิสริยยศสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จประพาสหัวเมืองปักษ์ใต้ พุทธศักราช ๒๔๕๒
Entourage during the royal visit in fancy dress, taken in Phuket Province in 1909.
ข้าราชสำนักในขบวนเสด็จกำลังเล่นน้ำตก ในอำเภอกระทู้ เมืองภูเก็ต ในคราวพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อครั้งดำรงพระราชอิสริยยศสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จประพาสหัวเมืองปักษ์ใต้ พุทธศักราช ๒๔๕๒ (สามคนหลังจากซ้ายไปขวา) หม่อมหลวงฟื้น พึ่งบุญ พระยารัษฎานุประดิษฐ์มหิศรภักดี (คอซิมบี๊ ณ ระนอง) พระยาบำเรอบริรักษ์ (สามคนหน้าจากซ้ายไปขวา) หม่อมหลวงเฟื้อ พึ่งบุญ นายเทียบ อัศวรักษ์ หม่อมเจ้าปิยบุตร จักรพันธุ์
Court officials enjoying a waterfall in Krathu District, Phuket Province during the royal trip to the southern provinces in 1909. (Three at the back, from left to right) M.L.Fuen Phungbun, Phraya Rasadanupradit Mahisonphakdi (Khaw Sim Bee Na Ranong), Phraya Bamroeborirak. (Three in front, from left to right) M.L.Fua Phungbun, Nai Thiab Asawarak and M.C.Piyabut Chakrabhand.
พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อครั้งดำรงพระราชอิสริยยศสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จประพาสหัวเมืองปักษ์ใต้ พุทธศักราช ๒๔๕๒ เสด็จทอดพระเนตรการทำอุตสาหกรรมเหมืองแร่ของอำแดงหั้ว ตัณฑวณิช เมืองภูเก็ต คนงานขนดินเดินไปตามสะพานซึ่งทำเป็นคู่ ไปสายหนึ่งกลับสายหนึ่ง เพื่อไม่ให้ชนกันกลางทาง
A royal visit to observe mining industry of Amdaeng Hua Tanthawanit, Phuket Province. Carrying the dug soil, laborers are walking along the two back and forth bridges separately to keep away from coming across en route, taken in 1909.
วัดถ้ำสุวรรณคูหา เมืองพังงา ถ้ำนี้มี ๒ ชั้น ชั้นล่างใช้เป็นวิหาร มีพระพุทธรูปและพระเจดีย์ ชั้นบนมีหินงอกหินย้อยงดงาม ที่หน้าผามีจารึกอักษรพระปรมาภิไธยพระมหากษัตริย์ที่เคยเสด็จพระราชดำเนินมาหลายพระองค์ ภายถ่ายเมื่อพุทธศักราช ๒๔๕๒
Wat Tham Suwankhuha in Phang-nga Province. This two-leveled cave housed a Buddha image and chedi at the lower level and stalactites and stalagmites found at the upper level. Evidently, inscriptions in front of the cave are names of several kings once visited the cave, taken in 1909.
พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เมื่อครั้งดำรงพระราชอิสริยยศสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จประพาสหัวเมืองปักษ์ใต้ ช้างในขบวนเสด็จเดินทางจากตำบลกะปางไปยังพลับพลาที่ประทับ ตำบลทุ่งสง เมืองนครศรีธรรมราช พุทธศักราช ๒๔๕๒
Elephants in the royal procession traveling from Kapang Sub-district to the residential pavilion in Thungsong Sub-distruct, Nakhon Si Thamarat Province, taken in 1909.
พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินเปิดศาลารัฐบาล เมืองภูเก็ต วันที่ ๒๒ เมษายน พุทธศักราช ๒๔๖๐ ในคราวเสด็จประพาสหัวเมืองปักษ์ใต้
King Vajiravudh in the opening ceremony of the government pavilion in Phuket Province on April 22, 1917 during his official visit to the southern provinces.
พระราชพิธีพระราชทานพระแสงราชศัสตราสำหรับเมืองภูเก็ตและถือน้ำเสือป่า วันที่ ๒๗ เมษายน พุทธศักราช ๒๔๖๐
The ceremony of offering a royal sword to Phuket and the water of allegiance ritual for the Wild Tiger Corps on April 27, 1917.
พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงจารึกพระปรมาภิไธย ที่สนานดาดฟ้าน้ำตกกะโรม เมืองนครศรีธรรมราช วันที่ ๑๐ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๔๖๐
King Vajiravudh is inscribing his signature upon the deck of Karom Waterfall, Nakhon Si Thammarat Province on May 10, 1917.
พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินไปทรงซ้อมรบเสือป่า ณ ค่ายหลวงบ้านไร่ เมืองราชบุรี
King Vajiravudh engages in the Wild Tiger maneuver at the Banrai royal camp, Ratchaburi Province.
พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงฉายร่วมกับเหล่าเสือป่า ในคราวเสด็จพระราชดำเนินไปทรงซ้อมรบเสือป่า ณ ค่ายหลวงบ้านไร่ เมืองราชบุรี
King Vajiravudh is taking a photo with the Wild Tiger Corps while participating in the maneuver at the Banrai royal camp, Ratchaburi Province.
หน่วยแพทย์ประจำการซ้อมรบเสือป่า ณ ค่ายหลวงบ้านไร่ เมืองราชบุรี
Medical Unit is on duty during the maneuver of the Wild Tiger Corps at the Banrai royal camp, Ratchaburi Province.
การขายตราไปรษณียากรบำรุงเสือป่า ณ ที่ทำการไปรษณีย์โทรเลขในที่ทำการซ้อมรบเสือป่า ณ ค่ายหลวงบ้านไร่ เมืองราชบุรี
Raising funds for Wild Tiger Corps through selling postage stamps at the post office in the Wild Tiger’s maneuver site.
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวประทับบนเรือชล่าพร้อมด้วยพระเจ้าลูกยาเธอ พระองค์เจ้าอุรุพงศ์รัชสมโภช มีเรือพระที่นั่งสุวรรณวิจิกอยู่ด้านข้าง ในคราวเสด็จประพาสต้นเมืองกำแพงเพชร พุทธศักราช ๒๔๔๙
King Chulalongkorn together with Prince Urubongs Rajasombhoj on Chala boat during his incognito travel to Kamphangphet in 1906. Next is the royal boat Suwanna Vijik.
เรือพระที่นั่งสุวรรณวิจิก เมื่อคราวพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จประพาสต้นเมืองกำแพงเพชร พุทธศักราช ๒๔๔๙
The royal boat, Suwanna Vijik. on King Chulalongkorn’s incognito travel to Kamphangphet in 1906.
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จประพาสต้นไร่บางแขม เมื่อพุทธศักราช ๒๔๔๙ จากซ้ายไปขวา (พระอิสริยยศในขณะนั้น)
๑. พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
๒. พระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์เจ้าไชยันตมงคล กรมหมื่นมหิศรราชหฤทัย
๓. พระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์เจ้าสวัสดิประวัติ กรมขุนสมมตอมรพันธุ์
๔. สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์เจ้าจิตรเจริญ เจ้าฟ้ากรมหลวงนริศรานุวัดติวงศ์
๕. พระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์เจ้าทองแถมถวัลยวงศ์ กรมขุนสรรพสาตรศุภกิจ
๖. สมเด็จพระเจ้าลูกยาเธอ เจ้าฟ้าบริพัตรสุขุมพันธุ์ กรมขุนนครสวรรค์วรพินิต
๗. พระเจ้าลูกยาเธอ พระองค์เจ้าวุฒิไชยเฉลิมลาภ กรมหลวงสิงหวิกรมเกรียงไกร
๘. พระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์เจ้าดิศวรกุมาร กรมหลวงดำรงราชานุภาพ
๙. พระเจ้าลูกยาเธอ พระองค์เจ้ารพีพัฒนศักดิ์ กรมหมื่นราชบุรีดิเรกฤทธิ์
๑๐. พระยาบุรุษรัตนราชพัลลภ (นพ ไกรฤกษ์)
๑๑. พระยาโบราณราชธานินทร์ (พร เดชะคุปต์)
๑๒. พระเจ้าลูกยาเธอ พระองค์เจ้าอุรุพงศ์รัชสมโภช (ทรงขี่คอ)
๑๓. จมื่นเสมอใจราช (อ้น นรพัลลภ)
๑๔. คนัง (ขี่คอจมื่นเสมอใจราช)
King Chulalongkorn’s incognito travel to Bangkhaem in 1906.
From left to right
1. King Chulalongkorn
2. Prince Mahisara Rajaharudaya, the Prince Brother
3. Prince Sommot Amornbhand, the Prince Brother
4. Prince Narisara Nuvadtivongs, the Prince Brother
5. Prince Sambassatra Suphakit, the Prince Brother
6. Prince Paribatra Sukhumbandhu, Prince of Nakhon Sawan
7. Prince Vudhijaya Chalermlabha Prince of Singha
8. Prince Damrongrajanubhab, the Prince Brother
9. Prince Raphi Pattanasak, Prince of Ratchaburi
10. Phraya Burutratana Rajaphanrop
11. Phraya Boran Rajathanin
12. Prince Urubhongse Rajasombhoj (riding the neck)
13. Chamuen Samoejairaj (On Noraphanlop)
14. Kanang (riding Chamuen Samoejairaj’s neck)
สมเด็จพระเจ้าน้องยาเธอ พระองค์เจ้าดิศวรกุมาร กรมหลวงดำรงราชานุภาพ ทรงกรรเชียงเรือในลำน้ำบ้านแดน เมืองกำแพงเพชร ในคราวพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จประพาสต้น พุทธศักราช ๒๔๔๙
Prince Damrongrajanubhab is rowing the boat in the waterway of Ban Taen, Kamphaengphet during King Chulalongkorn’s incognito travel in 1906.
ราษฎรพายเรือมารอเฝ้ารับเสด็จพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่วัดไล เมืองลพบุรี พุทธศักราช ๒๔๔๙
Waiting people, rowing boats to receive King Chulalongkorn at Wat Lai, Lopburi in 1906.
ขบวนเรือเสด็จประพาสต้นในพุทธศักราช ๒๔๔๙ ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่เมืองนครสวรรค์
Boat procession of King Chulalongkorn’s incognito travel at Nakhon Sawan in 1906.
กองคาราวานหาเนื้อ ที่วัดเขาบวชนาค (ปัจจุบันคือวัดจอมคีรีนาคพรต) เมืองนครสวรรค์ เมื่อครั้งพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จประพาสต้น พุทธศักราช ๒๔๔๙
Hunting caravan at Wat Khaobuatnak (currently Wat Chomkhirinakphrot), Nakhon Sawan, during King Chulalongkorn’s incognito travel in 1906.
ขบวนเรือเสด็จประพาสต้นของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ผ่านบริเวณทุ่งเขางู เมืองราชบุรี
King Chulalongkorn’s boat procession is passing Thung Khao Ngu during his visit to Ratchaburi.
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จประพาสต้นเมืองราชบุรี มีพระยาไกรเพ็ชร์รัตนสงคราม (แฉ่ง บุนนาค) สมุหเทศาภิบาลมณฑลราชบุรี ยืนรับเสด็จอยู่ด้านซ้ายของภาพ
King Chulalongkorn’s visit to Ratchaburi. Standing to receive him on left of the image is Phraya Kraiphet Ratanasongkhram (Chang Bunnag), governor of Monthon Ratchaburi.
ขบวนเกวียนในคราวพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จประพาสต้นเมืองราชบุรี
Cart caravan during King Chulalongkorn’s visit to Ratchaburi.
ขบวนเรือในคราวพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จประพาสต้นเมืองราชบุรี
Boat procession during King Chulalongkorn’s visit to Ratchaburi.
ขบวนเรือในคราวพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จประพาสต้นเมืองราชบุรี
Boat procession during King Chulalongkorn’s visit to Ratchaburi.
ขบวนเกวียนในคราวพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จประพาสต้นเมืองราชบุรี
Cart caravan during King Chulalongkorn’s visit to Ratchaburi.
ขบวนเสด็จประพาสต้นของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว มาถึงบริเวณพระนครคีรี เมืองเพชรบุรี
King Chulalongkorn’s party, upon arrival at the foot of Phra Nakhon Khiri, Phetchburi Province.
ขบวนเสด็จประพาสต้นของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว มาถึงสะพานพระจอมเกล้า เมืองเพชรบุรี ด้านหลังมองเห็นพระนครคีรี (เขาวัง)
King Chulalongkorn’s incognito travel party, arriving Phetchburi with Phra Nakhon Khiri (Khao Wang) on the background.
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จพระราชดำเนินไปตามถนนนครในเมืองสงขลา พ่อค้าและราษฎรตกแต่งร้านและบ้านเรือนด้วยผ้าและธงต่างๆอย่างสวยงาม
King Chulalongkorn is walking along Nakhon Nai Road, Songkhla with colorful decoration of houses and commercial shops by colored bands and flags.